Saturday, July 13, 2013

การติดตั้ง vsftpd บน VNCServer บน CentOS



หลัง จากที่เราทำการติดตั้ง VNC Server แล้ว เครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ ก็คือเจ้าตัว FTP นั่นเอง เราจะใช้สำหรับการรับและส่งผ่านข้อมูลหรือไฟลล์ต่าง ขึ้นลง server ของเรา ทำให้สามารถทำงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้นและตรงตามวัตถประสงค์ของเรานั่นเอง
เริ่มติดตั้งกันเลย (ทำตาม ThaiAff-Tips.com ได้เลยครับ แปปเดียว ก็เรียบร้อย)

1. login โดยใช้สิทธิ root เข้าไปที่ตัว server (vps) ของเรา (ใช้ ssh)
2. เริ่มทำการติดตั้งได้เลย
# yum install vsftpd
# setenforce 0


3. เพิ่ม user เข้าสู่ระบบ ftp ได้เลย โดยแทนที่คำว่า “ftpuser” ด้วยชื่อที่ต้องการ และต้องใส่ password 2 ครั้งให้เหมือนกัน
# useradd ftpuser
# passwd ftpuser

4. เปิดบริการให้กับตัว VSFTP ด้วยคำสั่ง
# service vsftpd start

เสร็จเรียบร้อยแล้ว สำหรับการติดตั้ง VSFTP ไว้ใช้งานบน server และไฟลล์ต่างๆที่เราจะอัพขึ้นไปนั้น ก็จะไปอยู่ที่โฟลเดอร์ “/home/ftpuser” นะครับ เราสามารถใช้โปรแกรม FTP Client ทั่วไปได้เลย เช่น FileZilla ได้โดยใช้ IP ของ server และ User/Pass ที่เราได้ตั้งขึ้น

Saturday, March 16, 2013

ติดตั้ง tomcat 6 ร่วมกับ apache อย่างไรครับ

คือ จะเขียนสคริปต์ jsp และ php อะครับ
ต้องใช้ทั้ง apache และ tomcat จะติดตั้ง อย่างไร ครับ
แบบง่ายๆ apt-get เลยได้ไหม
เพราะเห็นตามเว็บ เจอแต่ ยากๆ


ผมเคยเขียนเก็บไว้บน google doc ก็เลยเอามา post ให้ครับ (ของผมใช้ java5 กับ tomcat5 ถ้าจะใช้ tomcat6 ให้ลงเป็น java6 นะครับ)


1. upload this file to application server

jakarta-tomcat-5.0.28.tar.gz

jdk-1_5_0_17-linux-i586.bin


2. make working directory

#mkdir /home/opt

#mv  jakarta-tomcat-5.0.28.tar.gz  jdk-1_5_0_17-linux-i586.bin  /home/opt


3. install j2sdk

#./jdk-1_5_0_17-linux-i586.bin

result:   jdk1.5.0_17   --->   directory


4. extract tomcat tarball

#tar -xvf  jakarta-tomcat-5.0.28.tar.gz

result:   jakarta-tomcat-5.0.28   --->  directory


5. setup program for start at boot time

#cp  /home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28/bin/catalina.sh  /etc/init.d

then, add this line


# OS specific support.  $var _must_ be set to either true or false.

JAVA_HOME=/home/opt/jdk1.5.0_17
CLASSPATH=/home/opt/jdk1.5.0_17/jre/lib/rt.jar
CATALINA_HOME=/home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28
PATH=$PATH:/home/opt/jdk1.5.0_17/bin
export JAVA_HOME
export CLASSPATH
export CATALINA_HOME
export PATH


6. edit global environment

#pico /etc/profile

then, add this lilne


JAVA_HOME=/home/opt/jdk1.5.0_17
CLASSPATH=/home/opt/jdk1.5.0_17/jre/lib/rt.jar
CATALINA_HOME=/home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28
PATH=$PATH:/home/opt/jdk1.5.0_17/bin
export JAVA_HOME
export CLASSPATH
export CATALINA_HOME
export PATH

umask 022     --->   last line (old configuration)


7. startup test

#/etc/init.d/catalina.sh start

result:

Using CATALINA_BASE:   /home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28
Using CATALINA_HOME:   /home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28
Using CATALINA_TMPDIR: /home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28/temp
Using JAVA_HOME:       /home/opt/jdk1.5.0_17

and

root@catserver:~# netstat -lnt
Active Internet connections (only servers)
Proto Recv-Q Send-Q Local Address           Foreign Address         State
tcp        0      0 0.0.0.0:22              0.0.0.0:*               LISTEN
tcp        0      0 0.0.0.0:25              0.0.0.0:*               LISTEN
tcp6       0      0 127.0.0.1:8005          :::*                    LISTEN
tcp6       0      0 :::8009                 :::*                    LISTEN
tcp6       0      0 :::8080                 :::*                    LISTEN        --->      tomcat already start
tcp6       0      0 :::22                   :::*                    LISTEN


8. open web browser and type

http://your server ip address:8080


9. configure tomcat user and password for web management

#pico  /home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28/conf/tomcat-users.xml

result:

<?xml version='1.0' encoding='utf-8'?>
<tomcat-users>
  <role rolename="tomcat"/>
  <role rolename="role1"/>
  <user username="tomcat" password="tomcat" roles="tomcat"/>
  <user username="both" password="tomcat" roles="tomcat,role1"/>
  <user username="role1" password="tomcat" roles="role1"/>
</tomcat-users>

edit:

<?xml version='1.0' encoding='utf-8'?>
<tomcat-users>
  <role rolename="manager"/>
  <role rolename="admin"/>
  <user username="manager" password="hahaha" roles="manager"/>
  <user username="admin" password="hahaha" roles="admin"/>
</tomcat-users>

*now! you can login with manager and admin account


10. change permission for security

 #chmod 600 /home/opt/jakarta-tomcat-5.0.28/conf/tomcat-users.xml


11. restart tomcat (re-configure)

#/etc/init.d/catalina.sh stop

#/etc/init.d/catalina.sh start


12. login with admin and manager account


finish

*จริงๆ apt-get เอาก็ได้นะครับ ทั้ง java6 , tomcat6 แต่ต้องตั้งค่า environment ให้ถูกครับ และถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ ubuntu server 8.10 ตอนที่ format เครื่องเพื่อลง OS มันจะมีให้เลือกนะครับว่าจะติดตั้ง server แบบไหน ผมว่าผมเคยเห็นว่ามี tomcat ให้เลือกนะครับ ถ้าเลือกตรงนั้น พอ format เสร็จก็จะได้ tomcat server แบบสมบูรณ์ไปเลย

ขอบคุณครับ

ดตั้ง Tomcat 6, java sdk 6 เพื่อ run jsf บน ubuntu linux

พอดีมีปัญหาว่าจะ run jsf บน linux เลยติดตั้ง ubuntu ซึ่ง ubuntu มี tomcat กับ java ติดตั้งมาให้เรียบร้อย แต่พอลอง deploy jsf ขึ้นไป กลับไม่ start อ่ะครับ ก็เลยลองหลากหลายวิธี (แบบมั่ว ๆ )
ในที่สุด สรุปได้ว่า ต้องลง Tomcat version ที่ตรงกับ ที่เราพัฒนา jsf
คือผมพัฒนา jsf บน windows XP นะครับ แล้วติดตั้ง Tomcat บน windows แต่พอ deploy
ไปไว้ใน linux ก็ run ไม่ได้ ดังนั้นจึงลองติดตั้ง jdk ใหม่ กับ Tomcat ใหม่ ให้ version มันตรงกับที่
ใช้ใน windows XP ก็สามารถ Run ได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่ Version ของ Tomcat นะ (คิดว่านะ ?)
เอาเป็นว่าถ้าใครมีปัญหาแบบนี้ ก็ไป download tomcat ใหม่ มาลงใหม่ละกัน ให้ version ตรงกันกับที่
เราพัฒนา ซึ่งผมใช้ Tomcat V.6.0.20 กับ jdk 1.6.0.14-b08  ไม่แน่ใจว่าปัญหามันเป็นที่ Tomcat หรือ
ว่า jdk เพราะตอนที่ติดตั้ง ubuntu มันจะมีให้เลือก ติดตั้ง Tomcat ด้วย แต่จะเป็น Version 6.0.18 ส่วน jdk ก็จะเป็น openJDK 1.6.0.0 อ่ะ แต่ขี้เกียจไปหาสาเหตุที่แท้แระ ฮ่า ๆๆ เอาเป็นว่าถ้าใครมีปัญหาอย่างนี้ก็ลง Tomcat ใหม่เลยละกัน แล้วก็ลอง run ดูถ้าได้แสดงว่าเป็นที่ Tomcat อ่ะ
วิธีติดตั้งตามนี้นะ
ถ้าเป็น jdk ผมใช้
#apt-get install sun-java6-sdk
ระบบจะไปติดตั้ง java ที่ directory 
/usr/lib/jvm/java-6-sun
เช็คว่าติดตั้งได้ไหม โดยใช้
#java -version
มันจะแสดงว่า
java version "1.6.0_0"
OpenJDK Runtime Environment (IcedTea6 1.4.1)(6b14-1.4.1-0ubuntu7)
OpenJDK Client VM (build 14.0-b08, mixed mode, sharing)
มันขึ้นอย่างนี้แสดงว่า ตัว JRE เป็น OpenJDK ที่ผมติดตั้งตอนแรก ยังไม่ได้เอาออก
แต่ถ้าไปดูใน  Directory  /usr/lib/jvm/ จะเห็น Directory jav-6-sun กับ java-6-sun-1.6.0.14
ด้วย ซึ่งเป็น versin ที่ผมใช้ใน windowsXP อ่ะครับ
จากนั้นติดตั้ง Tomcat6 ผมจะไม่ใช้วิธี apt-get นะเพราะวิธีนี้ จะได้ version 6.0.18 อ่ะ ไม่ใช่ 6.0.20
ไป download ที่ http://tomcat.apache.org แล้ว Click Tomcat6.x ตรงกลุ่ม download
menu ด้านซ้ายมือ แล้วเลือก tar.gz  ตรง core นะครับ จะได้ file
apache-tomcat-6.0.20.tar.gz มา 
copy ไปยัง ubuntu จากนั้น แตก file โดยใช้
#tar -xvf apache-tomcat-6.0.20.tar.gz
ซึ่งมันจะแตก file โดยสร้าง directory apache-tomcat-6.0.20 มาให้เรานะครับ
แต่ผมไม่อยากได้ชื่อยาวแบบนี้ เลยเปลี่ยนเป็น tomcat เฉย ๆ ดีกว่า โดยใช้
#mv apache-tomcat-6.0.20 tomcat
จากนั้น copy tomcat ไปไว้ที่ /home/opt อันนี้แล้วแต่ว่าใครอยากไปวางที่ไหนนะครับ
ไม่ตายตัว
แล้วจากนั้นก็ copy file catalina.sh ไปไว้ที่ /etc/init.d  จะเป็น file ไว้ run tomcat นะครับ
#cp /home/opt/tomcat/bin/catalina.sh /etc/init.d
จากนั้นแก้ไข file catalina.sh
#nano /etc/init.d/catalina.sh
ซึ่งจะเป็นการกำหนดค่าตัวแปรต่าง ๆ เอาไว้บนสุดก็ได้นะครับ เพิ่มตามนี้นะ
JAVA_HOME=/home/opt/tomcat
CLASSPATH=/home/opt/tomcat/jre/bin/rt.jar
CATALINA_HOME=/home/opt/tomcat
PATH=$PATH:/home/opt/tomcat/bin
export JAVA_HOME
export CLASSPATH
export CATALINA_HOME
export PATH
แล้วก็ไปแก้ไข file profile ที่ directory etc
#nano /etc/profile
โดยเพิ่ม ข้อความ เหมือนกับทำใน catalina.sh
JAVA_HOME=/home/opt/tomcat
CLASSPATH=/home/opt/tomcat/jre/bin/rt.jar
CATALINA_HOME=/home/opt/tomcat
PATH=$PATH:/home/opt/tomcat/bin
export JAVA_HOME
export CLASSPATH
export CATALINA_HOME
export PATH
โดยบรรทัดสุดท้าย มันจะมีข้อความ umask 022 อันนี้ในเว็บที่ไปหาอ่าน
เขาจะบอกว่าเป็น config แบบเก่า แต่ file ที่ผมเปิด มันจะมีบรรทัดนี้อยู่แล้วอ่ะครับ
จากนั้นก็ start tomcat โดยใช้
#/etc/init.d/catalina.sh start
มันจะแสดงข้อความ
Using CATALINA_BASE: /home/opt/tomcat
Using CATALINA_HOME: /home/opt/tomcat
Using CATALINA_TMPDIR: /home/opt/tomcat/temp
Using JAVA_HOME: /home/opt/tomcat
จากนั้นเรามาลองเช็คว่า Program ทำงานไหม โดยใช้
#netstat -lnt
มันจะแสดง
Active Internet connections (only servers)
Proto Recv-Q Send-Q Local Address              Foreign Address        State
tcp6             0           0 :::8080                         :::*                              LISTEN
ซึ่งแสดงว่ามีการเปิด Port 8080 แล้ว ปรกติ Tomcat จะใช้ Port 8080 เป็นค่า default
ถ้าหากจะเปลี่ยน Port ก็ไปแก้ File server.xml โดยหาข้อความ port="8080" แล้วแก้
ให้เป็น port ที่ต้องการ โดยวิธีดูว่ามี port ไหนใช้ไปแล้วก็จาก คำสั่ง netstat ได้
เพราะมันจะแสดง port ที่ใช้มาให้ดู ผมเลือกเปลี่ยนเป็น 8090 อ่ะครับ
#nano /home/opt/tomcat/conf/server.xml
จากนั้นลองเปิด WebBrowser แล้วใส่ url ที่ Address ดังนี้
http://192.168.1.35:8090
โดยตัวเลข 192.168.1.35 เป็น เลข Ip ของ server ubuntu ของผมนะครับ
ถ้าจะเช็ค ip ของ ubuntu ให้ใช้
#ifconfig
จากนั้นเราจะ deploy web app ของเราผ่าน web admin ของ tomcat ก็ต้องมา
แก้ config ใน file tomcat-users.xml ก่อน ซึ่งอยู่ใน /home/opt/tomcat/conf
โดยเราจะเพิ่ม role manager กับ admin เข้าไปนะครับ แล้วก็เพิ่ม user root
เข้าไป โดยให้ roles เป็น manager กับ admin ซึ่ง ใน File เก่า เขาจะมี Comment
Block ข้อความของ ส่วน เซ็ท role นี้ เราก็ต้องเอาออกก่อนนะครับ คือที่เป็น
<!--           -->   แล้วเพิ่มข้อความเข้าไปจะได้ดังนี้ครับ
<tomcat-users>
       <role rolename="tomcat"/>
       <role rolename="role1"/>
       <role rolename="manager"/>
        <role rolename="admin"/>
       <user username="tomcat"  password="tomcat"  roles="tomcat"/>
       <user username="both"  password="tomcat"  roles="tomcat,role1"/>
       <user username="role1"  password="tomcat"  roles="role1"/>
       <user username="root"  password="root"  roles="manager,admin"/>
</tomcat-users>
แล้วลองเข้าไปที่ Tomcat Manager ดูครับ
http://192.168.1.35:8090/manager/html
ซึ่งจริง ๆ ในหน้าแรกของ tomcat ก็จะมี link อยู่ในส่วน Administration ชื่อ Tomcat Manager
นะครับ เมื่อเข้าไปจะมี ให้ใส่ user name password เมื่อใส่แล้ว เราก็ deploy file ได้ที่ WAR file to deploy
จะอยู่ส่วนล่างสุดนะครับ ก็ browse file ที่เรา deploy จะเป็นนามสกุล .war  แล้วกดปุ่ม deploy
ในรายการด้านบนที่เป็นส่วนของ Application จะเพิ่มชื่อของ WebApp ที่เราเพิ่มเข้าไป และ Column
Running จะต้องเป็น true ก็ทดสอบลองพิมพ์ url เป็น web ที่เรา deploy ดูนะครับ โดยของผมเป็น WebApplication01
ก็จะพิมพ์
http://192.168.1.35:8090/WebApplication01
ก็จะแสดง web application มาให้เราได้หายเหนื่อยอ่ะครับ ฮ่า ๆๆๆ เหนื่อยกว่าจะหาข้อมูลนี้ได้
พอดีเพิ่งเป็นมือใหม่สำหรับ linux นะครับ ^L^

Sunday, December 23, 2012

ติดตั้งและคอนฟิก Tomcat 5 บน CentOS 5

Tomcat เป็นโปรแกรมที่จะทำให้เราสามารถรันเว็บที่เขียนด้วย Java หรือ XML ได้ การติดตั้ง Tomcat 5 บน CentOS ตอนนี้ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อนอีกแล้วครับ ง่ายๆเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น มาดูกันครับ

1. ติดตั้ง Tomcat 5 ด้วยคำสั่ง yum
โค้ด: เลือกทั้งหมด
yum install tomcat5 tomcat5-webapps tomcat5-admin-webapps


2. เซ็ตให้รันเป็น service
โค้ด: เลือกทั้งหมด
chkconfig --level 35 tomcat5


3. ติดตั้ง Java SE SDK
เข้าเว็บนี้ครับ
โค้ด: เลือกทั้งหมด
http://www.oracle.com/technetwork/java/javase/downloads/index.html

แล้วเลือกดาวน์โหลด Java SE JDK จากนั้นเลือก Platform และดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องคอม แล้วอัพโหลดเข้า CentOS

โค้ด: เลือกทั้งหมด
chmod +x jdk-6u24-linux-i586-rpm.bin
./jdk-6u24-linux-i586-rpm-bin


ข้อความขณะติดตั้ง

Unpacking...
Checksumming...
Extracting...
UnZipSFX 5.50 of 17 February 2002, by Info-ZIP (Zip-Bugs@lists.wku.edu).
inflating: jdk-6u24-linux-i586.rpm
inflating: sun-javadb-common-10.6.2-1.1.i386.rpm
inflating: sun-javadb-core-10.6.2-1.1.i386.rpm
inflating: sun-javadb-client-10.6.2-1.1.i386.rpm
inflating: sun-javadb-demo-10.6.2-1.1.i386.rpm
inflating: sun-javadb-docs-10.6.2-1.1.i386.rpm
inflating: sun-javadb-javadoc-10.6.2-1.1.i386.rpm
Preparing... ########################################### [100%]
1:jdk ########################################### [100%]
Unpacking JAR files...
rt.jar...
jsse.jar...
charsets.jar...
tools.jar...
localedata.jar...
plugin.jar...
javaws.jar...
deploy.jar...
Installing JavaDB
Preparing... ########################################### [100%]
1:sun-javadb-common ########################################### [ 17%]
2:sun-javadb-core ########################################### [ 33%]
3:sun-javadb-client ########################################### [ 50%]
4:sun-javadb-demo ########################################### [ 67%]
5:sun-javadb-docs ########################################### [ 83%]
6:sun-javadb-javadoc ########################################### [100%]

Java(TM) SE Development Kit 6 successfully installed.

Product Registration is FREE and includes many benefits:
* Notification of new versions, patches, and updates
* Special offers on Oracle products, services and training
* Access to early releases and documentation

Product and system data will be collected. If your configuration
supports a browser, the JDK Product Registration form will
be presented. If you do not register, none of this information
will be saved. You may also register your JDK later by
opening the register.html file (located in the JDK installation
directory) in a browser.

For more information on what data Registration collects and
how it is managed and used, see:
http://java.sun.com/javase/registration ... ivacy.html

Press Enter to continue.....

Done.

4.แก้ไขไฟล์ /etc/sysconfig/tomcat5

แก้บรรทัด
โค้ด: เลือกทั้งหมด
JAVA_HOME = "/usr/java/jdk1.6.0_24"

ให้มันแม๊ตกับ JDK ตัวที่เราเพิ่งติดตั้งไปก่อนหน้านี้ ผมติดตั้ง JDK 1.6.0_24 มันจะอยู่ที่ไดเร็คตอรี่ /usr/java/jdk_1.6.0_24

5. เพิ่ม role admin และ manager ในไฟล์ tomcat-users.xml
เพื่อให้ล๊อกอินเข้าเว็บ Tomcat Admin ได้
ดีฟอลท์ Tomcat5 ยังไม่ได้เปิดให้ admin หรือ manager ล๊อกอินเข้าเว็บ /admin เราต้องคอนฟิกเพิ่มเอง

โค้ด: เลือกทั้งหมด
vi /usr/share/tomcat5/conf/tomcat-users.xml


เดิม
โค้ด: เลือกทั้งหมด
<?xml version='1.0' encoding='utf-8'?>
<tomcat-users>
  <role rolename="tomcat"/>
  <role rolename="role1"/>
  <user username="tomcat" password="tomcat" roles="tomcat"/>
  <user username="both" password="tomcat" roles="tomcat,role1"/>
  <user username="role1" password="tomcat" roles="role1"/>
</tomcat-users>


ใหม่
โค้ด: เลือกทั้งหมด
<?xml version='1.0' encoding='utf-8'?>
<tomcat-users>
  <role rolename="manager"/>
  <role rolename="admin"/>
  <role rolename="tomcat"/>
  <role rolename="role1"/>
  <user username="admin" password="admin" roles="admin,manager"/>
  <user username="both" password="tomcat" roles="tomcat,role1"/>
  <user username="tomcat" password="tomcat" roles="tomcat"/>
  <user username="role1" password="tomcat" roles="role1"/>
</tomcat-users>


6. รัน Tomcat
โค้ด: เลือกทั้งหมด
service tomcat5 start


ถ้าสตาร์ท Tomcat5 แล้วเจอข้อความแบบนี้

Starting tomcat5:
/usr/bin/rebuild-jar-repository: error: Could not find jdbc-stdext Java extension for this JVM
/usr/bin/rebuild-jar-repository: error: Could not find jndi Java extension for this JVM
/usr/bin/rebuild-jar-repository: error: Some detected jars were not found for this jvm
/usr/bin/rebuild-jar-repository: error: Could not find jaas Java extension for this JVM
/usr/bin/rebuild-jar-repository: error: Some detected jars were not found for this jvm
[ OK ]

ก็ปล่อยไปก่อนครับ แต่มันก็ยังรันได้

7. เช็คว่า Tomcat รันหรือเปล่า
ดีฟอลท์มันจะรันที่พอร์ต TCP 8080
โค้ด: เลือกทั้งหมด
netstat -ln | grep 8080

มีพอร์ต 8080 รันอยู่ครับ แสดงว่าเวอร์ค
tcp 0 0 0.0.0.0:8080 0.0.0.0:* LISTEN

8. เทสว่าเราติดตั้ง Tomcat ได้สำเร็จเรียบร้อยดีหรือเปล่า
ลองรันเว็บ Admin ของ Tomcat ดูครับ

http://192.168.100.1:8080/admin





ก็สำเร็จดีครับ ต่อไปก็เขียน Java Web Application ได้เลย

Install Tomcat 7 on Ubuntu 12.04

Install Tomcat 7 on Ubuntu 12.04




Apache has officially launched version 7.0 of the servlet container for Java applications, Tomcat. Major changes in this version, you can highlight support for Servlet 3.0 and JavaServer Pages 2.2.

Install JDK
See this post: Install JDK 6 update 23 in Ubuntu 10.10

Installation

The first thing to do is download the package "apache-tomcat-7.0.6.tar.gz" from the NEXT link
http://tomcat.apache.org/download-70.cgi [tar.gz]
Now unpack it with the following command:
tar xvzf apache-tomcat-7.0.8.tar.gz

Then we let in a more appropriate directory, in our case in / usr/share/tomcat7, but can be in any directory. We do this with the command:
sudo mv apache-tomcat-7.0.8/ /usr/share/tomcat7

Now we define the environment variables JAVA_HOME and JRE_HOME. This file is in the "environment" in / etc. Command to edit the file:
sudo gedit /etc/environment

Here we record the routes where we have installed Java in my case this is as follows:

JAVA_HOME="/usr/local/jdk1.6.0_23"
JRE_HOME="/usr/local/jdk1.6.0_23/jre"
PATH="...(other path):$JAVA_HOME:$JRE_HOME"

IMPORTANT: Verify the routes where they have installed Java.

I have had some problems in defining these environment variables, as sometimes tomcat does not recognize, but a surefire way of recognizing that tomcat is to define the file paths inside "catalina.sh"located in tomcat7/bin. To modify this file use the command:
sudo gedit /usr/share/tomcat7/bin/catalina.sh

Now just insert the JAVA_HOME and JRE_HOME after the first line, so the file is as follows:
#!/bin/sh
JAVA_HOME="/usr/local/jdk1.6.0_23"
JRE_HOME="/usr/local/jdk1.6.0_23/jre"
# Licensed to the Apache Software Foundation (ASF)...
#...
#...
....

Now let's configure Tomcat users, this is done in the file "tomcat-users.xml"directory tomcat7/conf. Command to edit the file:
sudo gedit /usr/share/tomcat7/conf/tomcat-users.xml

Unlike previous versions where the administrator should own role "manager" now it should be "manager-gui"to operate on the web administration tomcat7. The file would be as follows:


<?xml version='1.0' encoding='utf-8'?>

<tomcat-users>
<role rolename="manager-gui"/>
<role rolename="manager-script"/>
<role rolename="manager"/>
<role rolename="admin-gui"/>
<role rolename="admin-script"/>
<role rolename="admin"/>

<user username="usuario" password="contrasena" roles="manager-gui,admin-gui,manager,admin,manager-script,admin-script"/>
</tomcat-users>



Now you should be all ready to try tomcat7.

First we must lift the server with the following command:
sudo /usr/share/tomcat7/bin/startup.sh

With this we get the following output on console:
Using CATALINA_BASE: /usr/share/tomcat7
Using CATALINA_HOME: /usr/share/tomcat7
Using JRE_HOME: /usr/local/jdk1.6.0_20/jre
Using CLASSPATH: /usr/share/tomcat7/bin/bootstrap.jar:/usr/share/tomcat7/bin/tomcat-juli.jar

Verify that the JRE_HOME is where we define.

Now open your web browser and type the following url:
http://127.0.0.1:8080/

So we get the following page:

If we enter the administration Tomcat Manager we click on the menu or directly at URL:
http://127.0.0.1:8080/manager/html

Here we ask the user data from previous record in mind tomcat-users.xml.

I recommend testing the sample to make sure everything works ok, they are in the section "Miscellaneous" from the side menu or at the URL:
http://127.0.0.1:8080/examples/

Commands

Start server:
sudo /usr/share/tomcat7/bin/startup.sh

Stop server:
sudo /usr/share/tomcat7/bin/shutdown.sh

Automatic Starting

To make tomcat automatically start when we boot up the computer, you can add a script to make it auto-start and shutdown.


sudo gedit /etc/init.d/tomcat7

Now paste in the following:


# Tomcat auto-start
#
# description: Auto-starts tomcat
# processname: tomcat
# pidfile: /var/run/tomcat.pid

case $1 in
start)
sh /usr/share/tomcat7/bin/startup.sh
;;
stop)
sh /usr/share/tomcat7/bin/shutdown.sh
;;
restart)
sh /usr/share/tomcat7/bin/shutdown.sh
sh /usr/share/tomcat7/bin/startup.sh
;;
esac
exit 0

You’ll need to make the script executable by running the chmod command:


sudo chmod 755 /etc/init.d/tomcat7

The last step is actually linking this script to the startup folders with a symbolic link. Execute these two commands and we should be on our way.


sudo ln -s /etc/init.d/tomcat7 /etc/rc1.d/K99tomcat
sudo ln -s /etc/init.d/tomcat7 /etc/rc2.d/S99tomcat

Tomcat should now be fully installed and operational. Enjoy!

sudo /etc/init.d/tomcat7 restart

How to install Tomcat on Centos VPS

How to install Tomcat on Centos VPS
ต่อไปนี้ผมจะอธฺบายขั้นตอนในการลง apache tomcat สำหรับเป็น web server ทางฝั่งของนักพัฒนา java กันผ่านทาง vps ของใจเดียวโฮสติ้งกันครับ โดยหากให้ใจเดียวจัดการลงให้ก็สามารถทำได้ 2 วิธีคือ
1. การลงโดยใช้ Image ที่มีอยู่แล้วของ http://www.turnkeylinux.org/tomcat-apache
2. ลงโดยการดาวโหลไฟล์มา Install เองครับโดยในที่นี่่นี้ผมได้สอนในส่วนของการลงผ่านทางการดาวน์โหลดซอร์สโค้ดนะครับ

ติดตั้ง JAVA JDK 1.7

ในขั้นตอนการติดตั้งสามารหาโหลด jdk ได้จาก http://www.oracle.com/technetwork/java/javase/downloads/index.html โดยสามารถเลือก version ล่าสุดได้เลยขณะที่ผมเขียน tutorial นี้เป็น jdk 7u9 ครับ โดยในการดาวน์โหลดให้โหลดมาเป็น .tar.gz นะครับและเลือกตามสถาปัตยกรรม Os ที่ลงด้วยว่าเป็น i386 หรือ x64 นะครับ
#mkdir /user/admin/download
#cd /user/admin/download
#wget http://download.oracle.com/otn-pub/java/jdk/7u9-b05/jdk-7u9-linux-i586.tar.gz -o jdk-7u9-linux-i586.tar.gz

หลังจากดาวน์โหลดมาแล้วก็ให้แตกไฟล์ได้เลย
#mkdir /usr/java
#cd /usr/java
#cp /user/admin/download/7u9-b05/jdk-7u9-linux-i586.tar.gz /usr/java/7u9-b05/jdk-7u9-linux-i586.tar.gz
#tar -zxvf jdk-7u9-linux-i586.tar.gz

เราจะได้ directory ที่สร้างมาจากการแตกไฟล์ /usr/java/jdk1.7.0_09 เพื่อนให้งานผมสร้าง symbol link ในการอ้างอิง
#ln -s /usr/java/jdk1.7.0_09/ /usr/java/jdk
จากนั้นให้แก้ไขให้ environment รู้จักว่าเราได้ลง java แล้วรวมถึงสร้าง path สำหรับ execute ไปยัง jdk ด้วยโดยการแก้ไข /etc/profile เพิ่มตามด้านล่างด้านล่างสุดของไฟล์
#vi /etc/profile
:JAVA_HOME=/usr/java/jdk
:export JAVA_HOME
:PATH=$JAVA_HOME/bin:$PATH
:export PATH

จากนั้นโหลดค่าของ environment ใหม่ และทดลองว่า PATH ถูกต้องหรือไม่
#source /etc/profile
#java -version
java version "1.7.0_09"
Java(TM) SE Runtime Environment (build 1.7.0_09-b05)
Java HotSpot(TM) Server VM (build 23.5-b02, mixed mode)

ติดตั้ง APACHE TOMCAT 7

ในการติดตั้งให้ดาวน์โหลดไฟล์ core ของ apache-tomcat หลังจากนั้นก็แตกไฟล์เพื่อติดตั้งซึ่งผมได้ติดตั้ง version 7.0.32 ขณะทำการเขียนบทความ
#cd /home/user/admin/download
#wget http://mirrors.issp.co.th/apache/tomcat/tomcat-7/v7.0.32/bin/apache-tomcat-7.0.32.tar.gz
#cp apache-tomcat-7.0.32.tar.gz /usr/share/
#cd /usr/share
#tar -zxvf apache-tomcat-7.0.32.tar.gz
#ln -s /usr/share/apache-tomcat-7.0.32/ /usr/share/apache-tomcat

การตั้งค่า Tomcat ให้รันเป็น Service

เนื่องจากเราไม่ได้ทำการลงผ่าน yum ดังนั้นในส่วนของสคริปต์สำหรับเริ่มการทำงาน tomcat ไม่ได้มาพร้อมกับการติดตั้งดังนั้นเราต้องมีการแก้ไขเอง
#vi /etc/init.d/tomcat
ไฟล์ที่แก้ไข
#!/bin/bash
# description: Tomcat Start Stop Restart
# processname: tomcat
# chkconfig: 234 20 80
JAVA_HOME=/usr/java/jkd
export JAVA_HOME
PATH=$JAVA_HOME/bin:$PATH
export PATH
CATALINA_HOME=/usr/share/apache-tomcat

case $1 in
start)
sh $CATALINA_HOME/bin/startup.sh
;;
stop)
sh $CATALINA_HOME/bin/shutdown.sh
;;
restart)
sh $CATALINA_HOME/bin/shutdown.sh
sh $CATALINA_HOME/bin/startup.sh
;;
esac
exit 0
หลังจากนั้นก็เพิ่ม Permission ให้ไฟล์สามารถรันได้และให้รันเมื่อมีการปิดเครื่องหรือปิดเครื่อง
#chmod 755 /etc/init.d/tomcat
#chkconfig --add tomcat
#chkconfig -- level 234 tomcat on

จากนั้นลงทดสอบการทำงานของสคริฟต์ในการ start stop และ restart ท่านสามารถดู Log การทำงานของ tomcat ได้จาก /usr/share/apache-tomcat/logs/catalina.out
#tail -f /usr/share/apache-tomcat/logs/catalina.out
จากนั้นให้ท่านลองทดสอบเข้าหน้าเว็บไซต์เพื่อดูว่าการทำงานสามารถใช้งานได้จริง

การตั้งค่าผู้ใช้งานในการใช้งานตัวจัดการแอพลิเคชั่น

ในการ config ตัว apache-tomcat นั้นส่วนมากท่านจะต้องทำการ config เองเกือบทั้งหมดเนื่องจากยังไม่มีการสร้างส่วนแสดงผลให้เราจัดการโดยในการ จัดการ user ไฟล์การตั้งค่าจะอยู่ที่ /usr/share/apache-tomcat/conf/tomcat-users.xml
#vi /usr/share/apache-tomcat/conf/tomcat-users.xml
โดยเพิ่มผู้ใช้งาน admin และให้สิทธิเปน admin-gui และ admin-script เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานได้หมดทุกอย่างของตัวจัดการ


เมือเรียบรอยให้ทดลองเข้าหน้า /manager เพื่อทดสอบดูครับ

เป็นอันว่าเรียบร้อยครับสำหรับการติดตั้ง tomcat บน centos
ที่มา http://www.davidghedini.com/pg/entry/install_tomcat_7_on_centos

Wednesday, December 19, 2012

สร้าง Virtual Server ด้วย VirtualBox บน Ubuntu Hardy ตอน 1

สร้าง Virtual Server ด้วย VirtualBox บน Ubuntu Hardy ตอน 1

เนื่องจากที่ผมย้ายโฮสท์ไปใช้ VPS ที่มีแรมขนาด 256MB และได้ทำการเซ็ตอัพโปรแกรมต่างๆไปเยอะแต่ไม่ได้จดว่าทำอะไรไปบ้าง อีกทั้งตอนทำก็ทำตามข้อมูลที่หาได้จากในอินเตอร์เน็ต ดังนั้นก็เลยจะทำ Virtual Server ขึ้นมาแล้วเซ็ตอัพเพื่อให้เป็น Server ทดสอบก่อนไปใช้จริงบน VPS ซึ่งโปรแกรม Vitualize ที่ใช้งานง่ายและฟรีที่ผมรู้จักก็คือ VirtualBox นั่นเอง ในที่นี้ผมจะลงบน Ubuntu และ Guest เป็น Ubuntu Server Edition ดังนั้นก่อนอื่นให้ทำการดาว์นโหลดโปรแกรม VirtualBox และ Ubuntu Server Edition มาเตรียมกันไว้ก่อนเลยครับ


Download






วิธีลงโปรแกรม VirtualBox


ในที่นี้ผมดาว์นโหลด virtualbox_1.6.4-33808_Ubuntu_hardy_i386.deb มาไว้ที่ ~/Download ก็จัดการ Install ซะด้วยคำสั่ง

cd ~/Download
sudo dpkg -i

หลังจากลงเสร็จ เราจำเป็นต้องเซ็ต User Group ให้กับ User ก่อน ซึ่งสามารถใช้ Comand ตามด้านล่าง

sudo usermod -G vboxusers -a annomundi

จากนั้น logout ออกไป เมื่อเข้ามาใหม่แล้วให้ไปที่ Applications -> System Tools -> Sun xVM VirtualBox แต่ถ้าไม่มี Menu นี้ให้ลอง Restart เครื่องดู



วิธีสร้าง Virtual Machine


ต่อไปเราจะทำการสร้าง Virtual Machine ขึ้นมาเพื่อที่จะลง Ubuntu Server ก่อนอื่นให้ไปที่ File -> Virtual Disk Manager จากนั้น ก็กด New เพื่อเริ่มสร้าง Virtual Disk ทำตามรูปไปเรื่อยๆเลยครับ






ถ้าทำตามขั้นตอนในรูป เราจะได้ Virtual Disk ขนาด 3GB ครับ ต่อไปเราจะเริ่มสร้าง Virtual Machine และลง Ubuntu Server กันครับ



ให้กด New เพื่อสร้าง Virtual Machine ก็ทำตามรูปด้านล่างนี้เลยครับ

ใส่ชื่อ Virtual Machine และชนิดของ OS ที่จะลงในที่นี้ก็คือ Ubuntu

กำหนดขนาดของหน่วยความจำของ Virtual Machine ซึ่งในที่นี้ผมเลือก 256MB เพราะ VPS ผมก็ขนาด 256MB

เลือก Virtual Disk ที่เราสร้างในช่วงที่แล้วเพื่อนำมาใช้กับ Virtual Machine ตัวนี้

กด Finish เราก็จะได้ Vitual Machine ว่างๆมา พร้อมให้เราลง Ubuntu


แต่ ก่อนที่เราจะทำการเซ็ต Virtual Machine ต่อ โปรแกรม VirtualBox อาจฟ้องเตือนเกี่ยวกับ USB ตรงนี้ไม่มีผลอะไรกับ Virtual Machine ที่เราจะนำมาทำ Server จำลอง แต่ถ้าใครอยากให้ Virtual Machine สนับสนุน USB ก็ให้ทำตามนี้ครับ



Setup VirtualBox USB Support


ให้ทำการแก้ไขไฟล์ /etc/init.d/mountdevsubfs.sh

sudo nano  /etc/init.d/mountdevsubfs.sh

โดยแก้ตรงส่วน

#
# Magic to make /proc/bus/usb work
#
#mkdir -p /dev/bus/usb/.usbfs
#domount usbfs "" /dev/bus/usb/.usbfs -obusmode=0700,devmode=0600,listmode=0644
#ln -s .usbfs/devices /dev/bus/usb/devices
#mount --rbind /dev/bus/usb /proc/bus/usb

เป็น

#
# Magic to make /proc/bus/usb work
#
mkdir -p /dev/bus/usb/.usbfs
domount usbfs "" /dev/bus/usb/.usbfs -obusmode=0700,devmode=0600,listmode=0644
ln -s .usbfs/devices /dev/bus/usb/devices
mount --rbind /dev/bus/usb /proc/bus/usb

จากนั้นเช็คว่า Group ID ของ vboxusers

Medusa ~: grep vbox /etc/group
vboxusers:x:129:root,annomundi
Medusa ~

จะเห็นว่า groupid ของ group vboxusers บนเครื่องผมคือ 129
จากนั้นเปิดไฟล์ /etc/fstab ขึ้นมา

sudo gedit /etc/fstab

เพิ่มข้อความด้านล่างนี้เข้าไปท้ายสุดของไฟล์ อย่าลือมแก้ devgid=129 เป็นค่า groupid ของ vboxusers บนเครื่องของท่านก่อน แล้วเซฟ

## usbfs is the USB group in fstab file:
none /proc/bus/usb usbfs devgid=129,devmode=664 0 0

จากนั้นกลับไปแก้ไขไฟล์ /etc/init.d/mountkernfs.sh อีกครั้งนึง

sudo gedit /etc/init.d/mountkernfs.sh

ให้หาบรรทัดที่มีข้อความตามค้าล่างนี้

# Mount spufs, if Cell Broadband processor is detected

แล้วใส่ข้อความด้านล่างนี้ในบรรทัดก่อนข้อความตามด้านบน (อย่าลืมแก้ตรง devgid=129 ด้วยนะครับ)

## Mount the usbfs for use with Virtual Box
domount usbfs usbdevfs /proc/bus/usb -onoexec,nosuid,nodev,devgid=129,devmode=664

จากนั้นให้สั่ง

sudo /etc/init.d/mountkernfs.sh

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสหรับการเซ็ตให้ Virtualbox ใช้งาน USB ได้ (ไม่ได้ลองแต่ Warning จะหายไป)


เตรียมความพร้อมของ Virtual Machine


ก่อนอื่นถ้าคุณโหลด Ubuntu 8.04.1 Server Edition มาแล้ว ให้เราทำการ Mount Image (.iso) เข้ากับ Virtual Machine ก่อนเพื่อจะได้ทำการ Install Ubuntu ลง Virtual Machine ให้เลือก Virtual Macine ที่เราเพิ่งสร้างไปแล้วกด Settings

แล้วไปที่คลิ๊ก Check box ที่ Mount CD/DVD Drive และเลือก ISO Image File ตามรูปบน แล้วคลิ๊กปุ่ม Select ด้านข้าง

กดปุ่ม Add แล้วเลือกไปที่ไฟล์ iso ของ Ubuntu Server ที่เรา download มาในตอนแรก

กด Select แล้วหน้าจะจะเป็นตามรูปด้านล่าง


จากนั้นให้ไปที่ General ตามหน้าจอด้านล่าง

ให้ คลิ๊กที่ Check Box ด้านหน้า Enable PAE/NX ส่วนถ้า CPU ใครรองรับ Virtualize จะกด Enable VT-x/AMD-V ไปก็ได้ครับ จากนั้นกด Ok เพื่อกลับไปที่ Window หลัก


ตอน นี้เราก็พร้อมที่จะบูต Virtual Machine ครั้งแรกแล้วครับ แต่ทีนี้ขั้นตอนการลงจะมีภาพประกอบค่อนข้างเยอะ จึงจะขอตัดไปตอนที่ 2 ครับ ซึ่งจะแสดงขั้นตอนการลง ซึ่งไม่ยากใครเคยลง Linux น่าจะทำได้

 
Design by GURU