Thursday, July 19, 2012

ติดตั้ง CentOS 6.2 : ลง boot loader และ reboot

หน้าจอติดตั้ง boot loader  แสดงค่าคอนฟิกเช่นพาร์ทิชั่น ที่ใช้บู๊ต

สำหรับเริ่มต้นในที่นี้ ไม่ต้องแก้ไขอะไร


ยินดีด้วย คุณติดตั้ง CentOS เสร็จเีรียบร้อยแล้ว กดปุ่ม [Reboot] เพื่อบู๊ตเครื่อง
โดยปกติแล้ว แผ่นดีวีดีจะออก (eject) มาโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่ออกมา ให้กดปุ่ม มิฉะนั้นการบู๊ตเครื่องอาจไปอ่านแผ่นดีวีดีเพื่อเข้าสู่โหมดติดตั้งอีกครั้ง

ติดตั้ง CentOS 6.2 : เลือกชุดซอฟต์แวร์ที่จะลง

หน้าจอให้เลือกชุดโปรแกรม (set of software, packages) ที่จะติดตั้ง
การลงลีนุกซ์แต่ก่อน เราต้องเลือกลงเองว่าจะลงโปรแกรมอะไรบ้าง คำแนะนำที่ได้ยินตอนหัดใช้ใหม่ๆ คือ ลงทุกโปรแกรมเลย ต้องการใช้อะไรมีหมด
แต่สมัยนี้ โปรแกรมที่ให้มาในแผ่นติดตั้งค่อนข้างเยอะ และเนื่องด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย โปรแกรมบางตัวลงแล้วอาจมีปัญหา (Bugs)  เป็นอันตรายต่อเซิร์ฟเวอร์โดยรวม จึงแนะนำให้เลือกลงเฉพาะจำเป็นเท่านั้น แล้วค่อยมาลงเพิ่มทีหลัง

เพื่อความง่าย CentOS มีการจัดชุดโปรแกรมให้เลือกตามประเภทของเซิร์ฟเวอร์ที่เราจะนำไปใช้งาน เช่นเป็น Desktop, Web Server, Database Server


หากต้องการเลือกรายละเอียดแต่ละโปรแกรมในชุด สามารถกดด้านล่าง “Customize now”


ตัวอย่างการเลือก Minimal แล้วกด Customize now ชุดนี้แทบจะไม่ลงโปรแกรมอะไรเลย  จะใช้เนื้อที่ดิสก์ในการติดตั้งน้อยที่สุด
ไม่แนะนำสำหรับผู้หัดใช้ เพราะลงโปรแกรมเพิ่มค่อนข้างยุ่งยาก


ตัวอย่างการเลือก Desktop แล้วกด Customize now ชุดนี้จะลง X Window และโปรแกรม GUI เช่น Browser, Office ใช้เป็น Desktop  ทำงาน ได้เลย


ตัวอย่างการเลือก Web Server แล้วกด Customize now ชุดนี้จะลงเว็บเซิร์ฟเวอร์และภาษาที่ใช้เขียนเว็บเช่น PHP เพื่อให้ผู้ใช้นำไปพัฒนาโปรแกรมเขียนเว็บ รันเป็นเว็บไซต์ได้เลย



Minimal – Base System – Base

โดยส่วนตัวจะชอบเลือกแบบ Minimal แล้วกด Customize now แต่คลิ้กเลือกเฉพาะชุดโปแกรม [x] Base เพื่อเลือกลงโปรแกรมพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ ทำให้การติดตั้งโปรแกรมหรือเซอร์วิสเพิ่มเติมง่ายขึ้น


หากต้องการดูรายละเอียดในชุดโปรแกรม เช่น Base ว่ามีอะไรบ้าง ให้เลือกที่ Base แล้วกดปุ่มด้านล่าง [Optional packages] ตามตัวอย่าง  หากคุณไม่ต้องการลงโปรแกรมอะไร ก็สามารถคลิ้กออกได้


ตัวอย่างหน้าจอกำลังติดตั้งโปรแกรม

ติดตั้ง CentOS 6.2 : แบ่งพาร์ทิชั่นดิสก์

คำเตือน การเริ่มต้นหัดใช้ลีนุกซ์ แนะนำให้ติดตั้งบนฮาร์ดดิสก์เปล่าๆ เลย คือไม่มีพาร์ทิชั่นที่มีข้อมูลอื่นๆ อยู่  เพราะถ้าหากเราเลือกเมนูการติดตั้งไม่ถูกต้อง จะทำให้ข้อมูลที่มีอยู่เดิม ถูกลบทิ้งไปได้
เลือกประเภทของฮาร์ดดิสก์ที่จะติดตั้ง  โดยทั่วไปแล้วเลือก “Basic Storage Devices”  ยกเว้นเครื่องของคุณจะใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ต่อแบบ Fiber, SAN ไปยังดิสก์ภายนอก



คำถามยอดนิยม สำหรับการลงลีนุกซ์ คือ ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่าไร ขอตอบแยกเป็นสองส่วน
  • ส่วนที่ใช้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ (OS) ลีนุกซ์ และโปรแกรมนั้นใช้ประมาณ 1-2 GB ก็สามารถลงโปรแกรมเพื่อรันเซอร์วิส Web, Database, Mail ได้สบายๆ แต่แนะนำให้เผื่อไว้ ซัก 10-20 GB
  • ส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลจริง ขึ้นอยู่กับปริมาณของผู้ใช้งานเอง เช่นถ้าคุณรันเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ ขนาดดิสก์ก็ต้องเผื่อไว้ตามขนาดของเว็บเพจ ไฟล์ html รูปภาพ และ อื่นๆ หรือถ้ารันเป็น database ก็ขึ้นอยู่กับขนาดฐานข้อมูลที่คุณจะใช้

เรื่องที่น่าสับสนอีกอย่างสำหรับการลงลีนุกซ์คือเรื่องการจัดแบ่งพาร์ทิชั่น คือไม่รู้ว่าจะจัดแบ่งอย่างไรดี
คำแนะนำสำหรับการติดตั้ง CentOS เพื่อเรียนรู้การใช้งาน คือแบ่งพาร์ทิชั่นออกเป็น 3 ส่วน
  • /boot ขนาด 200 MB
  • swap ขนาดเป็นสองเท่าของหน่วยความจำ (RAM) เช่นเครื่องมี RAM 1 GB ก็แบ่ง swap ขนาด 2 GB (2048 MB)
  • พื้นที่ดิสก์ที่เหลือให้เป็น “/”

หมายเหตุ  สำหรับเครื่องที่มี RAM มากๆ ไม่จำเป็นต้องสร้าง swap เป็น สองเท่าของหน่วยความจำก็ได้

เพื่อความสะดวก CentOS มีเมนูช่วยสร้างพาร์ทิชั่น โดยจะถามเรื่องการใช้พื้นที่ในดิสก์ว่าจะใช้อย่างไร ใช้ส่วนไหนได้บ้าง
  • Use All Space จะเคลียร์พาร์ทิชั่นทั้งหมดที่อยู่บนฮาร์ดดิสก์ แล้วสร้างพาร์ทิชั่นใหม่ให้โดยอัตโนมัติ
  • Replace Existing Linux System(s) จะเคลียร์พาร์ทิชั่นเฉพาะที่เป็นลีนุกซ์ที่อยู่บนฮาร์ดดิสก์ แล้วสร้างพาร์ทิชั่นใหม่ให้โดยอัตโนมัติ
  • Shrink Current System ลดขนาดพาร์ทิชั่นที่มีอยู่ แล้วสร้างใหม่
  • Use Free Space สร้างพาร์ทิชั่นโดยใช้พื้นที่ดิสก์ที่ยังว่างอยู่
  • Create Custom Layout ให้เราสร้างพาร์ทิชั่นเองทั้งหมด



หากเราต้องการดูหรือตรวจสอบว่าพาร์ทิชั่นที่สร้างเองอัตโนมัตินั้น โครงสร้างการจัดแบ่งเป็นอย่างไร ให้คลิ้ก “Review and modify partitioning layout” ที่อยู่ด้านล่าง แล้วค่อยกดปุ่ม [Next]


ตัวอย่างการคลิ้กเลือก “Use All Space”  แล้วดู “Review and modify partitioning layout”






Create Custom Layout

เพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดแบ่งพาร์ทิชั่น แนะนำให้เลือก “Create Custom Layout” เพื่อสร้างเอง แล้วกด [Next]


สำหรับดิสก์เปล่า หน้า Layout จะเป็นแบบนี้


ด้านล่างจะมีปุ่มให้กด
  • [Create] สร้าง
  • [Edit] แก้ไข
  • [Delete] ลบ
  • [Reset] เริ่มใหม่


Partition: /boot

เริ่มต้นสร้างพาร์ทิชั่น “/boot”
คลิ้กที่ Free แล้วกดปุ่ม [Create] เลือกสร้าง “Standard Partition” แล้วกด [Create]



ใส่ข้อมูลพาร์ทิชั่น “/boot” ที่สร้าง
  • Mount Point:   /boot
  • File System Type:   ext4
  • Size (MB):   200
  • Additional Size Options:   [x] Fixed Size
  • [x] Force to be a primary partition
แล้วกดปุ่ม [OK]


Partition: swap

ขั้นที่สอง สร้างพาร์ทิชั่น “swap”
คลิ้กที่ Free แล้วกดปุ่ม [Create] เลือกสร้าง “Standard Partition” แล้วกด [Create]



ใส่ข้อมูลพาร์ทิชั่น “swap” ที่สร้าง
  • Mount Point: ไม่สามารถเลือกได้  ให้เลือก File System Type เป็น swap
  • File System Type:   swap
  • Size (MB):   2048 (สองเท่าของ RAM)
  • Additional Size Options:   [x] Fixed Size
  • [x] Force to be a primary partition
แล้วกดปุ่ม [OK]


Partition: /

สุดท้าย สร้างพาร์ทิชั่น “/”
คลิ้กที่ Free แล้วกดปุ่ม [Create] เลือกสร้าง “Standard Partition” แล้วกด [Create]


ใส่ข้อมูลพาร์ทิชั่น “/” ที่สร้าง
  • Mount Point:   /
  • File System Type:   ext4
  • Size (MB): (ใส่เป็นอะไรก็ได้)
  • Additional Size Options:   [x] Fill to maximum allowable size (ใช้พื้นที่ดิสก์ที่เหลือทั้งหมด)
  • [x] Force to be a primary partition
แล้วกดปุ่ม [OK]



ตัวอย่างพาร์ทิชั่นทั้งสาม ที่สร้าง



เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อย กดปุ่ม [Next] หน้าจอจะถามเพื่อยืนยันว่าต้องการ Format หรือไม่ เพราะจะเป็นการเคลียร์ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่บนดิสก์  ถ้ายืนยันกดปุ่ม [Format]


หน้าจอถามอีกครั้ง เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงพาร์ทิชั่นใหม่ ถ้ายืนยันกดปุ่ม [Write changes to disk]


หน้าจอแสดงการ Format ฮาร์ดดิสก์


ข้อมูลอ้างอิง

เลือก time zone, ใส่ root password

หน้าจอให้เลือก time zone สามารถใช้เมาส์คลิ้กไปที่แผนที่เลือก Bangkok หรือเลือกจากเมนู ภายใต้ Selected city เลือก Asia/Bangkok



ด้านล่างซ้ายของหน้าจอ จะมีให้เลือก [ ] System Clock uses UTC แนะนำให้คลิ้กออก


คลิ้กปุ่ม Next ไปขั้นตอนต่อไป
หน้าจอให้ใส่รหัสผ่าน (password) ของ root ใส่สองครั้งให้เหมือนกัน


ข้อมูลอ้างอิง

ใส่ชื่อ hostname และคอนฟิกเน็ตเวิร์ค

หน้าจอใส่ชื่อ Hostname ของเครื่อง

แนะนำให้ใส่เป็นชื่อเต็มคือมีชื่อเครื่องและชื่อโดเมนเนมด้วย


ในหน้านี้ สามารถกดปุ่ม [Configure Network] เพื่อเข้าสู่หน้าคอนฟิกเน็ตเวิร์คได้
ตัวอย่างเครื่องที่มีการ์ดแลนหนึ่งพอร์ต


คลิ้กที่พอร์ต “System eth0”   แล้วกดปุ่ม [Edit] เพื่อแก้ไขค่าคอนฟิกของพอร์ตได้
คลิ้ก [x] Connect automatically แล้วกดแท็ป “IPv4 Settings”
เลือก Method เป็น Manual แล้วกดปุ่ม [Add] เพื่อใส่ค่า IP Address, Netmask, Gateway
ใส่ค่า DNS Servers, Search Domain
เสร็จเรียบร้อยกดปุ่ม [Apply]

ติดตั้ง CentOS 6.2 : เริ่มต้นการติดตั้ง

ใส่แผ่นดีวีดี CentOS 6.2 บู๊ตเครื่องที่จะติดตั้ง
หน้าจอแสดงเมนูให้เลือกตอนบู๊ต

สำหรับการติดตั้งใหม่เลือกเมนูแรก “Install or upgrade an existing system” กด [Enter]


หน้าจอแสดงข้อความการบู๊ตเพื่อติดตั้ง


บู๊ตเสร็จเรียบร้อย หน้าจอแสดง “Disc Found” เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแผ่นดีวีดีที่จะใช้ติดตั้งได้ว่า ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
หมายเหตุ เมื่อดาวน์โหลดไฟล์ ISO แล้วเขียนลงแผ่น  ครั้งแรกที่ใช้แผ่นนี้ติดตั้ง แนะนำให้ตรวจสอบแผ่นว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะผู้เขียนเคยมีประสบการณ์โหลดมาแล้วเหมือนครบ นำมาบู๊ตติดตั้งได้ แต่พอติดตั้งไปซักพัก ไม่สามารถติดตั้งบางโปรแกรมได้
หลังจากตรวจสอบว่าถูกต้องแล้ว ครั้งต่อไปก็สามารถกด [Skip] ได้


หน้าจอกราฟฟิก แสดงโลโก้ของ CentOS 6


ด้านล่างตลอดการติดตั้ง จะมีปุ่ม [Back] และ [Next] ให้กดเพื่อกลับไปขั้นตอนที่ผ่านมา [Back] หรือไปขั้นต่อไป [Next] ได้


หน้าจอให้เลือกภาษาที่ใช้ตลอดการติดตั้ง ไม่มีให้เลือกภาษาไทย เลือกเป็น “English (English)”


หน้าจอให้เลือกชนิดคีย์บอร์ด เลือก “U.S.English”

ติดตั้ง CentOS 6.2 : หน่วยความจำขั้นต่ำที่ต้องใช้

จาก Release Notes ของ CentOS 6.2 ในส่วนของ Known Issues หน่วยความจำขั้นต่ำ (minimum memory requirement) ของเครื่องที่จะติดตั้ง CentOS 6.2 ได้นั้น ต้องมีขนาด 392 MB

ตัวอย่างหน้าจอการติดตั้ง หากเครื่องมีหน่วยความจำต่ำกว่า 392 MB เช่น 256 MB


ในเวอร์ชั่นก่อน CentOS 5.x สามารถติดตั้งในโหมด text ธรรมดาได้ ซึ่งสามารถเลือกคอนฟิกติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์
แต่ใน CentOS 6 การติดตั้งในโหมด text ธรรมดา จะไม่สามารถแก้ไขพาร์ทิชั่นของดิสก์ (disk partition layout) และเลือกชุดซอฟต์แวร์ (package selection) ได้
ต้องเลือกติดตั้งในโหมด GUI เท่านั้น ซึ่งเป็นโหมดดีฟอลต์อยู่แล้ว (Install or upgrade an existing system) ตอนบู๊ตจากแผ่นดีวีดี
หน่วยความจำขั้นต่ำที่ต้องใช้เพื่อติดตั้งในโหมด GUI คือ 652 MB
ตัวอย่างหน้าจอการติดตั้ง หาก memory ต่ำกว่า 652 MB เช่น เครื่องมีหน่วยความจำ 512 MB


แต่ถ้าติดตั้ง CentOS 6.2 เรียบร้อยแล้ว หน่วยความจำแค่ 256MB ก็สามารถบู๊ตรันลีนุกซ์ได้ ^-^ (128MB ไม่พอ)


ถ้าให้แนะนำ เครื่องที่จะใช้งานเพื่อรันเซอร์วิสต่างๆ ด้วย น่าจะมีหน่วยความจำขั้นต่ำ 1 GฺB หรือถ้าจะให้ดี ก็ 2 GB ขึ้นไป

ข้อมูลอ้างอิง

เลือกเวอร์ชั่น CentOS ที่จะใช้ติดตั้ง

ข้อดีของลีนุกซ์ คือเราต้องการใช้ distribution ไหน เวอร์ชั่นเท่าไร ก็เข้าเว็บไซต์ (mirror site) เพื่อเลือกดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งได้
โดยไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาส่วนใหญ่จะเป็นไฟล์ ISO โหลดเสร็จสามารถนำมาเขียนใส่แผ่นซีดี หรือดีวีดี เพื่อใช้ติดตั้งบนเครื่องต่างๆ ได้
สำหรับ CentOS แนะนำให้เลือก CentOS 6 เวอร์ชั่นล่าสุด 6.2 เนื่องด้วยการพัฒนาปรับปรุงซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของระบบมากขึ้น

หากต้องการทราบรายละเอียดว่าเวอร์ชั่นใหม่มีอะไรบ้าง ให้คลิกลิ้งค์ Release Notes บนหน้าเว็บไซต์ของ CentOS (www.centos.org)


เลือก Download ได้สองแบบคือ i386 หรือ x86_64 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะใช้ติดตั้ง
หากเป็นเครื่องเก่ามากๆ ต้องเลือกเป็น i386 เท่านั้น
แต่ถ้าเป็นเครื่องใหม่ ให้เลือก x86_64 จะรองรับหน่วยความจำได้มากกว่า และใช้ประสิทธิภาพของเครื่องได้เต็มที่
ยากเหมือนกันที่จะบอกว่าเครื่องรุ่นไหน เก่าใหม่ขนาดไหน สามารถติดตั้ง x86_64 ได้ แนะนำ ให้ลองลงแบบ x86_64 ดูก่อน ถ้าติดตั้งไม่ได้จริงๆ ค่อยใช้ i386
ตัวอย่างหน้าเว็บเมื่อคลิ้ก Download แบบ x86_64
ในหน้าเว็บ Download จะมีให้เลือกเว็บไซต์ (mirror) สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์ ให้เลือกไซต์ที่คิดว่าใกล้กับคุณมากที่สุด



ตัวอย่างเช่นเลือก mirror1.ku.ac.th หน้าเว็บแสดงไฟล์ต่างๆ มากมาย
สำหรับ CentOS 6.2 ที่จะใช้ติดตั้งบนเครื่อง x86_64 ได้นั้น ชื่อไฟล์จะขึ้นต้นด้วย “CentOS-6.2-x86_64-bin-DVD”
วิธีการที่จะโหลดไฟล์ได้นั้น มีสองวิธี
1. (ไม่แนะนำ เพราะจะกินแบนด์วิดท์ของเว็บไซต์มาก) ดาวน์โหลดโดยตรงจากเว็บไซต์ คลิ้กที่ไฟล์ “CentOS-6.2-x86_64-bin-DVD1.iso” และ “CentOS-6.2-x86_64-bin-DVD2.iso”
2. โหลดโดยใช้ bit torrent ให้คลิ้ก “CentOS-6.2-x86_64-bin-DVD1to2.torrent” เพื่อโหลดไฟล์ประเภท torrent แล้วใช้โปรแกรม bit torrent ช่วยโหลดให้อีกที


ข้อมูลอ้างอิง

ขั้นตอนการติดตั้ง CentOS 6.2 แบบ Minimal

บทความนี้จะแนะนำการติดตั้งและใช้งาน CentOS http://www.centos.org/ ซึ่งเป็น Linux สาย Redhat ตัวหนึ่ง ในการนำมาใช้ทำเป็น Server โดยจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นตอนๆ เพื่อความสะดวกของคนเขียน (ผมเอง) โดยจะมีเนื้อหาทั้งหมดคราวๆ ตามหัวข้อดังนี้
* CentOS Minimal Installation
* Web Server: Apache and PHP
* Secure Web Server : Apache & Mod SSL
* Database: MySQL & PHP MySQL Extension
* Database: Oracle & PHP OCI8 Extension
* Mail Server: Postfix
* DNS Server: BIND
* FTP Server: ProFTPD
* User & Group Management
เราจะเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้งกันก่อน โดยจะทำการติดตั้งแบบ Minimal ซึ่งเป็นแบบที่ติดตั้งองค์ประกอบต่างๆน้อยที่สุด ไม่มี GUI ให้ใช้ เหมาะกับการเอาไปทำ Server เป็นอย่างยิ่ง และโปรแกรมอื่นๆที่จำเป็น เราจะมาทำการติดตั้งเพิ่มเติมเองในภายหลัง

อย่างแรกเราต้องทำการ Download ตัวติดตั้งมาก่อน ซึ่งจะมีให้เลือก Download อยู่ 2 แบบหลักๆ ตามชนิดของ CPU ของเราคือ i386 จะใช้สำหรับ CPU 32 บิท และ x86_64 จะใช้สำหรับ CPU แบบ 64 บิท
# i386 สำหรับ CPU 32 บิท
http://mirror.centos.org/centos/6.2/isos/i386/
# x86_64 สำหรับ CPU 64 บิท
http://mirror.centos.org/centos/6.2/isos/x86_64/
จากนั้นทำการ Download CentOS-6.2-i386-minimal.iso หรือ CentOS-6.2-x86_64-minimal.iso ตามชนิดของ CPU ของเรา
ขั้นตอนแรกเลือก Install or upgrade an existing system
CentOS-Minimal-Install
Skip ไปเลยเพราะว่าเราไม่ต้องการทำการตรวจสอบแผ่น
CentOS-Minimal-Install
เข้าสู่หน้าจอการติดตั้งแบบกราฟฟิกอันสวยงาม กด Next
CentOS-Minimal-Install
ทำการเลือกภาษา
CentOS-Minimal-Install
จากนั้นเลือก Keyboard Layout
CentOS-Minimal-Install
ทำการเลือก Basic Storage Device เพราะว่าเราใช้ Hard Disk ธรรมดาๆ
CentOS-Minimal-Install
กด Yes, discard any data เพื่อยืนยันว่าถ้ามีข้อมูลอยู่ใน Hard Disk ตัวนี้เราไม่เอามันแล้วนะให้ลบเลย
CentOS-Minimal-Install
ทำการตั้งชื่อเครื่อง ในที่นี้ผมตั้งว่า centos.unzeen.com
CentOS-Minimal-Install
จากนั้นคลิกที่ Configure Network เพื่อทำการกำหนด IP Address โดยเลือกไปที่ Wired และคลิก Edit ที่ eth0 ซึ่งเป็นการ์ดแลนของเราเอง
CentOS-Minimal-Install
ทำการคลิกถูกที่ Connect automatically (อันนี้ห้ามลืมเลยนะ) จากนั้นเลือกไปที่แท็บ IPv4 Setting กำหนดข้อมูลในช่อง Method เป็น Manual และทำการเพิ่ม IP Address, Netmask, Gateway, DNS Server โดยของผมกำหนดดังนี้
1
2
3
4
IP Address : 192.168.10.10
Netmask : 24
Gateway : 192.168.10.1
DNS Server : 8.8.8.8 //อันนี้ของกูเกิลเลยนะ
CentOS-Minimal-Install
ต่อไปทำการเลือกประเทศ
CentOS-Minimal-Install
กำหนดรหัสผ่านสำหรับ root //ตั้งรหัสผ่านยากๆ ไว้
CentOS-Minimal-Install
เลือก Use All Space เพราะว่าเราต้องการติดตั้งโดยไม่แบ่ง partition แต่ถ้าใครเชียวชาญมากแล้วก็เลือก Create Custom Layout ได้เลยไม่ว่ากัน
CentOS-Minimal-Install
คลิก Write changes to disk
CentOS-Minimal-Install
ระบบเริ่มทำการติดตั้ง CentOS ลงบน Hard Disk ของเรา รอสักครู่……
CentOS-Minimal-Install
เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วคลิก Reboot
CentOS-Minimal-Install
เมื่อ Reboot เรียบร้อยแล้วเราจะเห็นหน้าจอให้ใส่ Username และ Password (ไม่มีหน้าจอแบบ GUI ให้นะจ้ะ เพราะว่าเราจะเอามาทำ Server หน้าจอกราฟฟิกแบบ GUI คงไม่จำเป็น)
CentOS-Minimal-Install
ขั้นตอนต่อไปทำการลงโปรแกรมแรกในเครื่องกันก่อน อันนี้ผมลง nano เอาไว้แก้ไขเท็กไฟล์ต่างๆ เพราะผมใช้ vi หรือ vim ไม่คล่อง แต่สัญญาว่าจะหัดใช้ – -’
1
# yum install nano
CentOS-Minimal-Install
จากนั้นทำการ Disable SELinux โดยเข้าไปแก้ไขไฟล์คอนฟิกที่ /etc/selinux/config โดยแก้ไขให้ SELINUX=disabled (ใน nano ให้กด CTRL+O เพื่อทำการ save และกด CTRL+X เพื่อออกจากโปรแกรม)
1
# nano /etc/selinux/config
CentOS-Minimal-Install
ต่อไปทำการ Disable Firewall
1
# chkconfig iptables off
CentOS-Minimal-Install
เมื่อแก้ไขค่าต่างๆเรียบร้อยแล้วทำการ restart สักหนึ่งรอบ
1
# shutdown -r now
CentOS-Minimal-Install
เมื่อ Reboot เครื่องเสร็จแล้ว เราสามารถทำการ SSH เพื่อเข้าใช้งานได้
CentOS-Minimal-Install
เสร็จสินขั้นตอนการติดตั้ง CentOS 6.2 แบบ Minimal เพียงเท่านี้ คราวหน้าเราจะมาติดตั้ง Apache, mod_ssl และ php กันต่อ ^^

 
Design by GURU